ดัชชุน (Dachshund)
กระทัดรัด
ฉลาด ขี้ประจบ
คุณสมบัติของสุนัข
ลักษณะทั่วไป
ดัชชุน รูปร่างเตี้ย ขาสั้น ตัวยาว แต่มีการพัฒนาของกล้ามเนื้อที่แน่นและแข็งแรง ลักษณะการเชิดศีรษะเต็มไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ สีหน้าของดัชชุนแสดงออกซึ่งความฉลาด ทั้งๆ ที่ขาสั้นเมื่อเทียบกับความยาวของลำตัว แต่ดัชชุนด์ไม่เคยแสดงออกถึงลักษณะของความพิการ งุ่มง่ามหรือยืดยาดในการเคลื่อนไหว มีความฉลาด สดใสและกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงอันตราย มุ่งมั่นในการทำงานทั้งบนดินและใต้ดิน ประสาทสัมผัสทั้งหมดพัฒนาอย่างดี มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับเกมการล่าสัตว์ใต้ดิน นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณในการล่าสัตว์ รูปร่างและจมูกที่เหมาะสม ทำให้ได้เปรียบเหนือพันธุ์อื่นทั้งหมดของสุนัขที่ใช้ในกีฬาการสะกดรอย
ความเป็นมา
สุนัขดัชชุน เป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มฮาวด์มีรูปร่างที่กระทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ ลำตัวยาวดูแปลกตาจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "สุนัขไส้กรอก" ชื่อดัชชุน (dachs หมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง hund หมายถึงสุนัข ) ปรากฎในหนังสือเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในยุโรปสมัยกลาง เป็นสุนัขที่มีความคล้ายคลึงสุนัขฮาวด์ในการแกะรอย และมีรูปร่างและอารมณ์คล้ายสุนัขเทอร์เรียร์ มีความสามารถในการติดตามตัวแบดเจอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินและมักจะออกมาหาอาหารตอนกลางคืน จึงมักถูกเรียกว่าสุนัขแบดเจอ
ด้วยความแข็งแรงและทรหด บวกกับความฉลาดและกล้าหาญ
ทั้งบนและใต้พื้นดิน สุนัขดัชชุน
หลายตัวรวมกันสามารถเข้าต่อกรกับหมีป่าได้อย่างสบาย
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงมีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์แบบอื่นๆ
สุนัขดัชชุนด์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนัก 16 - 22 ปอนด์
ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสุนัขจิ้งจอก
และในการแกะรอยกวางที่ได้รับบาดเจ็บ
สุนัขขนาดนี้ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันดีในอเมริกา สุนัขที่มีขนาดเล็กกว่า
โดยมีน้ำหนัก 12 ปอนด์
ถูกนำมาใช้ล่าสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "Stoat" มีขนาดเล็ก มีขนสีน้ำตาล อาศัยอยู่ในยุโรปตอนเหนือ
การนำเข้าสุนัขพันธุ์ดัชชุนด์มายังประเทศสหรัฐอเมริกา
เกิดขึ้นมาก่อนการจัดโชว์สุนัขอเมริกาครั้งแรก สุนัขที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ถูกใช้ในการล่าสัตว์น้อยมากเพราะว่าไม่ค่อยมีตัวแบดเจอร์และหมีป่า
และไม่มีการล่ากวางด้วยสุนัข รวมทั้งไม่มีการล่าสุนัขจิ้งจอกด้วยการดมกลิ่น
ลักษณะและรูปร่างที่ถูกต้องของสายพันธุ์ได้รับการส่งเสริม
โดยการนำเข้าสายพันธุ์ที่ใช้ในการล่าสัตว์ของเยอรมันและเพื่อส่งเสิรมความสามารถในการล่าสัตว์
รวมถึงรูปร่างและอารมณ์ที่ดีเลิศ ความสามารถในภาคสนามตามกฎของ AKC ได้รับการกำหนดขึ้นในปี 1935

ลักษณะนิสัย
ดัชชุนเป็นสุนัขฉลาด ขี้สงสารและไม่ค่อยสร้างความ ยุ่งยาก ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน หากได้ รับการ ฝึกอย่างดี อย่างถูกวิธี มันจะเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังคำสั่ง เข้ากับเด็กได้ดี ทีเดียว
การดูแล
สุนัขพันธุ์ดัชชุนมีสัญชาตญาณของความเป็น
นักล่ามันชอบขุดดินเป็นนิสัยในสายพันธุ์ มันชอบที่จะ ขุดดินนอกบ้าน
และตะกรุยพื้นในบ้าน หากไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ
มีแนวโน้มที่จะอ้วนเพราะสุนัขพันธุ์ดัชชุนตัวเตี้ยเล็กนี้ จะมีขาสั้นแต่ลำตัว ยาว
อันจะเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับหลัง กำลังศูนย์ถ่วงที่น้ำหนักตกลงบนลำตัว
หากกินมากเกินไป จนอ้วนจะทำให้หลังแอ่นอาจจะมีปัญหากับกระดูกสันหลังได้
ผู้เลี้ยงควรใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวด้วย
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
ผู้ที่จะเลี้ยงดัชชุน ควรเป็นผู้เลี้ยงที่มีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกาย และให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลสุขภาพของสุนัข

ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้
มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด
|
น้ำหนัก
16
- 22 ปอนด์
|
ศรีษะ
|
เมื่อดูจากด้านบนหรือด้านข้าง
ศีรษะจะค่อยๆ เรียวเล็กลงอย่างสม่ำเสมอไปยังปลายของจมูก เห็นเป็นเส้นชัดเจน
กะโหลกศีรษะกลมเล็กน้อย และควรลาดเอียงทีละน้อยโดยไม่มีสต๊อป
ไปยังแนวสันจมูกกระดูกเหนือตายื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ปลายจมูกยาวและแคบ
ริมฝีปากยึดออกไปคลุมขากรรไกรล่าง แต่ไม่ลึกหรือยื่นออกมา
มุมปากไม่มีเครื่องหมายชัดเจน
จุดเชื่อมต่อของขากรรไกรบนและล่างอยู่ด้านหลังของตา
|
ฟัน
|
ฟันเขี้ยวมีพลังมาก
ประกบกันได้สนิท และด้านนอกของฟันกัดด้านล่าง
ควรสัมผัสกับด้านในของฟันบนอย่างสนิท
|
ปาก
|
ริมฝรปากดำ
กระชับ กระบอกปากยาวเล็ก
|
ตา
|
ขนาดปานกลาง
รูปไข่ ตั้งอยู่ด้านข่าง แสดงออกถึงความฉลาด มีพลัง ร่าเริง ไม่ดุดัน
สีน้ำตาลออกแดง จนถึงดำออกน้ำตาล สำหรับขนทุกชนิดและทุกสี
ตาซึ่งเป็นสีขาวหรือสีขุ่นในกรณีของสุนัขลายต่าง
ไม่เป็นข้อบกพร่องที่รุนแรงมากนัก แต่เป็นลักษณะที่ไม่พึงปรารถนา
|
หู
|
ไม่อยู่ใกล้ส่วนบนของศีรษะ
ไม่ค่อนไปข้างหน้ามากเกินไป ยาวแต่ไม่ยาวมาก ไม่แคบตั้ง
หรือม้วนการเคลื่อนไหวของหูมองดูมีชีวิตชีวา และขอบด้านหน้าแตะกับแก้มพอดี
|
จมูก
|
จมูกสีดำ
สีเข้มเป็นมันเงา
|
คอ
|
ค่อนข้างยาว
มีมัดกล้ามเนื้อ ไม่มีผิวหนังยาน หย่อนตรงคอหอย ขยายออกอย่างสวยงามไปยังไหล่
แสดงความองอาจแต่ไม่แข็ง
|
อก
|
อกลึก
มีกล้ามเนื้อกระชับแน่น ซี่โครงขยายพอดี ไม่ใหญ่เทอะทะ
|
ลำตัว
|
โดยทั่วไปต้องยาว
และเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกระดูกเชิงกรานแข็งแรง
อยู่ในแนวตรงที่สุดที่เป็นไปได้ ระหว่างจุดสูงสุดของไหล่ หน้าอกเป็นรูปไข่
และยืดขยายไปด้านล่างไปจนถึงจุดกึ่งกลางของขาหน้าโครงสร้างของกระดูกซี่โครง
เต็มและเป็นรูปไข่ เมื่อมองจากด้านบนหรือจากด้านข้าง จะเห็นเต็ม
เพื่อให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่
เป็นตำแหน่งของหัวใจและปอดกระดูกซี่โครงกลมโค้งแล้วค่อยๆ
ประสานกลมกลืนเข้ากับเส้นท้อง ถ้าความยาวถูกต้อง
ขาหน้าเมื่อมองดูจากด้านข้างควรปิดคลุมจุดที่ต่ำสุดของเส้นอก
เส้นท้องสูงขึ้นเล็กน้อย
|
เอว
|
-
|
ขาหน้า
|
ขาหน้าท่อนบน
มีความยาวเท่ากับแผ่นไหล่ และทำมุมฉากกัน
กระดูกแข็งและเต็มด้วยกล้ามเนื้ออยู่แนบชิดกับซี่โครง
สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระ ขาหน้าจะสั้นเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่นๆ
อุ้งเท้าหนา กว้างด้านหน้า และเอียงออกด้านนอกเล็กน้อย อัดแน่นนิ้วเท้างุ้มสวยงาม
และอุ้มเท้าควรแนบชิดติดกัน มีเล็บที่แข็งแรงด้านล่างมีอุ้งเล็บที่แข็ง
ติ่งเล็บอาจต้องถูกตัดออกไป
|
ขาหลัง
|
ขาหลังแข็งแรง
สั้น ท่อนขาทั้ง 2
ข้างขนาดกัน มั่นคงแข็งแรง
|
หาง
|
หางเรียงเล็ก
และสั้น กระดูกหางยาวต่อจากกระดูกสันหลัง ปลายหางเล็กเรียว โค้งขึ้นเล็กน้อย
ปลายชี้ไปทางด้านหน้า
|
ขน
|
ลักษณะพิเศษของขนที่แตกต่างกัน
3
ชนิด1. ขนสั้น (หรือขนเรียบ) 2. ขนลวด 3. ขนยาว ซึ่ง ทั้ง 3 ชนิดนี้ควรเป็นไปตามลักษณะมาตรฐานที่ได้กล่าวมาแล้ว
ขนยาวและขนสั้นเป็นชนิดที่มีมานาน เป็นพันธุ์ที่อยู่ตัวดีแล้ว แต่ในชนิดลวด เลือดของพันธุ์อื่น
ได้ผสมเข้ามาอย่างมีวัตถุประสงค์
แม้กระนั้นในการผสมพันธุ์สิ่งเน้นที่สำคัญที่สุดต้องอยูที่การให้เป็นไปตามชนิดของดัชชุนด์ทั่วไป
ลักษณะดังต่อไปนี้ นำมาใช้แยกชนิดกันตามลำดับ
|
สีขน
|
ดัชชุนขนสั้นมีหลายทั้งสีน้ำตาลแดงล้วน
น้ำตาลเหลือง หรือสีดำแต้มน้ำตาลแดงที่รอบปาก อก คิ้วเหนือดวงตาและช่วงเท้าทั้ง 4 ข้าง
ส่วนขนยาวก็มีสีดำแต้มด้วยสีน้ำตามแดงเป็นจุดๆ อย่างขนสั้น
บางตัวเป็นขนสีน้ำตาลเหลืออ่อนๆ บางตัวมีขนสีขาวแต้มจุดดำ มีบางตัวเป็นสีน้ำตาลแดงเข้ม
แต้งสีดำไหม้บริเวณขนปลายหู อก และใต้ท้อง
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น